ซาเกรบ(Zagreb) เมืองหลวงของประเทศโครเอเชีย ดินแดนแห่งทะเลเอเดรียติค มี ความเก่าแก่แฝงไว้ด้วยเสน่ห์และมนต์ขลัง ซาเกรบเป็นเมืองแห่งศิลปวัฒนธรรมและเจริญรุ่งเรืองมา ต้ังแต่สมัยศตวรรษที่ 11 ปัจจุบันชาวโครเอเชียนมีวิถีชีวิตเหมือนชาวยุโรปท่ัวไป ผู้คนนิยมใช้รถราง ในการเดินทาง กรุงซาเกรบประกอบด้วยเขตเมือง Upper Town ที่สร้างขึ้นสมัยศตวรรษที่ 17 ที่มีซุ้ม ประตูหินเป็นสัญลักษณ์ เขต Lower Town ที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 19 และเขตเมืองใหม่ New Town ที่สร้างหลังสงครามโลกคร้ังที่ 2
ซาเกรบ(Zagreb) เมืองหลวงของประเทศโครเอเชีย ดินแดนแห่งทะเลเอเดรียติค มี ความเก่าแก่แฝงไว้ด้วยเสน่ห์และมนต์ขลัง ซาเกรบเป็นเมืองแห่งศิลปวัฒนธรรมและเจริญรุ่งเรืองมา ต้ังแต่สมัยศตวรรษที่ 11 ปัจจุบันชาวโครเอเชียนมีวิถีชีวิตเหมือนชาวยุโรปท่ัวไป ผู้คนนิยมใช้รถราง ในการเดินทาง กรุงซาเกรบประกอบด้วยเขตเมือง Upper Town ที่สร้างขึ้นสมัยศตวรรษที่ 17 ที่มีซุ้ม ประตูหินเป็นสัญลักษณ์ เขต Lower Town ที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 19 และเขตเมืองใหม่ New Town ที่สร้างหลังสงครามโลกคร้ังที่ 2
เมืองเบลด (Bled) เมืองแห่งโบสถ์กลางทะเลสาบสุดแสนโรแมนติก ท่ามกลางหุบเขาจูเลียน แอลป์ Julian Alps
ชมสะพานมังกร Dragon Bridge ที่ทอดข้ามแม่น้าลุบเบลียยานิก้า สะพานแห่งแรกๆ ที่สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กขนาด ใหญ่ของยุโรป หัวสะพานท้ังสองด้านประดับด้วยรูปป้ันมังกร
ซาเกรบ(Zagreb) เมืองหลวงของประเทศโครเอเชีย ดินแดนแห่งทะเลเอเดรียติค มี ความเก่าแก่แฝงไว้ด้วยเสน่ห์และมนต์ขลัง ซาเกรบเป็นเมืองแห่งศิลปวัฒนธรรมและเจริญรุ่งเรืองมา ต้ังแต่สมัยศตวรรษที่ 11 ปัจจุบันชาวโครเอเชียนมีวิถีชีวิตเหมือนชาวยุโรปท่ัวไป ผู้คนนิยมใช้รถราง ในการเดินทาง กรุงซาเกรบประกอบด้วยเขตเมือง Upper Town ที่สร้างขึ้นสมัยศตวรรษที่ 17 ที่มีซุ้ม ประตูหินเป็นสัญลักษณ์ เขต Lower Town ที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 19 และเขตเมืองใหม่ New Town ที่สร้างหลังสงครามโลกคร้ังที่ 2
ซาเกรบ(Zagreb) เมืองหลวงของประเทศโครเอเชีย ดินแดนแห่งทะเลเอเดรียติค มี ความเก่าแก่แฝงไว้ด้วยเสน่ห์และมนต์ขลัง ซาเกรบเป็นเมืองแห่งศิลปวัฒนธรรมและเจริญรุ่งเรืองมา ต้ังแต่สมัยศตวรรษที่ 11 ปัจจุบันชาวโครเอเชียนมีวิถีชีวิตเหมือนชาวยุโรปท่ัวไป ผู้คนนิยมใช้รถราง ในการเดินทาง กรุงซาเกรบประกอบด้วยเขตเมือง Upper Town ที่สร้างขึ้นสมัยศตวรรษที่ 17 ที่มีซุ้ม ประตูหินเป็นสัญลักษณ์ เขต Lower Town ที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 19 และเขตเมืองใหม่ New Town ที่สร้างหลังสงครามโลกคร้ังที่ 2
อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่(Plitvice National Park) อุทยานที่มี ความเก่าแก่และใหญ่ที่สุดในโครเอเชีย ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก ทางธรรมชาติในปี ค.ศ.1979 อุทยานมีพื้นที่ประมาณ 29,482 เฮคเตอร์ หรือประมาณ 295 ตาราง กิโลเมตร โดย 223 ตารางกิโลเมตรเป็นพื้นที่ป่าและพื้นน้าครอบคลุมประมาณ 2.17 ตารางกิโลเมตร มีทะเลสาบสีเทอร์ควอยซ์ถึง 16 แห่งที่มีความงดงามแตกต่างก
อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่(Plitvice National Park) อุทยานที่มี ความเก่าแก่และใหญ่ที่สุดในโครเอเชีย ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก ทางธรรมชาติในปี ค.ศ.1979 อุทยานมีพื้นที่ประมาณ 29,482 เฮคเตอร์ หรือประมาณ 295 ตาราง กิโลเมตร โดย 223 ตารางกิโลเมตรเป็นพื้นที่ป่าและพื้นน้าครอบคลุมประมาณ 2.17 ตารางกิโลเมตร มีทะเลสาบสีเทอร์ควอยซ์ถึง 16 แห่งที่มีความงดงามแตกต่างก
อาสนวิหารนักบุญอนาสตาเซียภายในมีสุสานใต้ดิน (catacomb) ที่ฝังร่างนักบุญโดนาตุสผู้เคยเป็นสังฆราชประจำเมืองนี้มาก่อน อีกหนึ่งจุดเด่นของอาสนวิหารนี้คือมีหอล้างบาป (baptistery) ทรงหกเหลี่ยมที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 6
เมืองซาดาร์ (Zadar) เมืองที่มีประวัติศาสตร์มากว่า 3,000 ปีมาแล้ว และเป็นเมือง ท่าส าคัญซ่ึงต้ังอยู่บนคาบสมุทรขนาดใหญ่ของทะเลเอเดรียติค ที่มีบทบาทมาต้ังแต่สมัยโรมันจนถึง GO3ZAG-OS001 Page | 7 ปัจจุบัน
ซิเบนิค (Šibenik) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในประเทศโครเอเชีย โดยตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลอดริอาติก เมืองนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง ซึ่งเป็นที่รู้จักจากสถาปัตยกรรมที่สวยงามและธรรมชาติที่น่าทึ่ง เมืองนี้ยังเป็นที่ตั้งของโบสถ์ที่มีชื่อเสียงอย่างโบสถ์เซนต์เจมส์ (Cathedral of St. James) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก
เมืองสปลิท (Split) เมืองใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากซาเกรบ ซึ่งอยู่ในแคว้นดัลเมเชีย อันเป็นต้นกำเนิดของสุนัขพันธุ์ดัลมาเชี่ยนที่โด่งดัง
เมืองสปลิท (Split) เมืองใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากซาเกรบ ซึ่งอยู่ในแคว้นดัลเมเชีย อันเป็นต้นกำเนิดของสุนัขพันธุ์ดัลมาเชี่ยนที่โด่งดัง
เมืองสตอน Ston เมืองที่ต้ังอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองดูบรอฟนิค เป็นเมืองที่เปรียบเสมือนตัวแทนของประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมยุคกลางคือกำแพงเมืองโบราณ ซึ่งถูก สร้างขึ้นเพื่อล้อมรอบเมือง โดยกำแพงโบราณแห่งนี้ใช้เวลาในการก่อสร้างกำแพงนี้ประมาณ 200 ปี
เมืองดูบรอฟนิค(Dubrovnik) ตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศริมชายฝั้งทะเลที่มี บ้านเรือนหลังคากระเบื้องสีแสดสลับตามแนวชาย่งเป็นระยะๆ เมืองดูบรอฟนิคได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งใน เมืองเก่าที่สวยที่สุดในยุโรป สมญานาม “ไข่มุกแห่งทะเล เอเดรียติก” เป็นเมืองที่มีอำนาจทางทะเล ต้ังแต่ศตวรรษที่ 13
เมืองดูบรอฟนิค(Dubrovnik) ตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศริมชายฝั้งทะเลที่มี บ้านเรือนหลังคากระเบื้องสีแสดสลับตามแนวชาย่งเป็นระยะๆ เมืองดูบรอฟนิคได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งใน เมืองเก่าที่สวยที่สุดในยุโรป สมญานาม “ไข่มุกแห่งทะเล เอเดรียติก” เป็นเมืองที่มีอำนาจทางทะเล ต้ังแต่ศตวรรษที่ 13
เมืองโมสตาร์(Mostar) หนึ่งเมืองประวัติศาสตร์แสนสวยที่มีชื่อเสียงมีขนาดใหญ่ เป็นอันดับ 5 และเป็นหนึ่งในเมืองที่สำคัญของประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
เมืองโมสตาร์(Mostar) หนึ่งเมืองประวัติศาสตร์แสนสวยที่มีชื่อเสียงมีขนาดใหญ่ เป็นอันดับ 5 และเป็นหนึ่งในเมืองที่สำคัญของประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
สะพานโบราณ หรือ สตารี โมสท์ Old Bridge Stari Most สะพานที่ถูกสร้างขึ้นจากหิน โดยมีความสูง จากระดับน้า ซึ่งวัดได้ในช่วงฤดูร้อนประมาณ 21 เมตร ถูกสร้างขึ้นโดยชาวออตโตมันในช่วงศตวรรษ ที่ 16
เมืองซาราเจโว(Sarajevo) เมืองหลวงของประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ฉายายูซาเล็มแห่งคาบสมุทรบอลข่าน เนื่องด้วยเคยตกอยู่ภายใต้อาณาจักออตโตมันในอดีตและมี ผู้คนหลายเชื้อชาติมากมาย ท าให้เมืองหลวงแห่งนี้ประกอบไปด้วยผู้คนหลายเชื้อชาต